เมื่อเวลา 07.20 น. วันนี้ (17พ.ค.) เจ้าหน้าที่ป้องกันและ บาคาร่า บรรเทาสาธารณภัยเทศบาลตำบลวิชิต ได้รับแจ้งว่า มีเหตุเพลิงไหม้รถยนต์ ที่บริเวณริมถนนหน้าซ่อมรถจักรยานยนต์ ก่อนถึงสามแยกแหลมชั่น ถ.เจ้าฟ้าตะวันออกขาออก ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต ขอให้เดินทางไปช่วยดับเพลิงด้วย หลังจากรับแจ้ง จึงรายงานให้ นายกรีฑา โชติวิชญ์พิพัฒน์ นายกเทศมนตรีตำบลวิชิต ทราบ ก่อนเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ดับเพลิง พร้อมรถน้ำ จำนวน 2 คัน ร.ต.อ.วัยศักดิ์ดา กลิ่นเขียว รองสว.จร.สภ.วิชิต เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรสภ.วิชิต
ที่เกิดเหตุหน้าร้านดังกล่าวริมถนนฝั่งขาออก เห็นเพลิงกำลังรุกไหม้รถยนต์เก๋งยี่ห้อโดตโยต้า รุ่นวีออส สีขาว หมายเลขทะเบียน กว-5028 ภูเก็ต
ทางเจ้าหน้าที่ฯเร่งฉีดน้ำสกัดอย่างเร่งด่วน เพื่อไม่ให้เพลิงลุกลามไปติดร้านที่รถคันดังกล่าวจอดอยู่ โดยทางเจ้าหน้าที่ฯใช้เวลากว่า 30 นาที จึงสามารถควบคุมเพลิงได้ จากการตรวจสอบในเบื้องต้น พบว่า รถยนต์ถูกเพลิงเผาวอดทั้งคัน มูลค่าความเสียหายประมาณ 400,000 บาท
จากการสอบถาม นายฐาปกรณ์ ใจบรรเจิด อายุ 25 ปี ชาวภูเก็ต เจ้าของรถคันดังกล่าว ว่า ตนได้ขับรถออกมาจากบ้านห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 1 กิโลเมตร ซึ่งภายในรถมีอาม่า หลานนั่งมาด้วย เพื่อไปส่งอาม่าออกกำลังกายที่สวนหลวงร.9 และจะไปส่งหลานต่อที่โรงเรียน เมื่อขับมาถึงที่เกิดเหตุได้มีควันพุ่งออกมาจากช่องแอร์ ตนจึงได้หยุดรถและให้อาม่าและหลานรีบลงจากรถ จากนั้นก็เห็นไฟติดอยู่ในช่องแอร์ ระหว่างนั้นได้มีชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์นำถังดับเพลิงมาช่วยดับ แต่ไม่สามารถดับได้เนื่องจากไฟติดอย่างรวดเร็วจึงได้โทรแจ้งให้ดับเพลิงเทศบาลตำบลวิชิตมาช่วยดับในที่สุด และตนไม่ทราบว่าสาเหตุว่าเพลิงไหม้เกิดขึ้นมาจากอะไร แต่เป็นน่าสังเกตห้องเครื่องยนต์เพลิงไม่ไหม้แต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม ทางพนักงานสอบสวนสภ.วิชิต จะประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานภูเก้ตลงพื้นที่ตรวจสอบเพื่อสาเหตุที่แท้จริงต่อไป และก่อนหน้าหน้า เมื่อเวลา 05.00 น. วันเดียว เจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลตำบลรัษฎา ได้รับแจ้งว่า มีอุบัติเหตุรถยนต์ชนท้ายรถยนต์ที่จอดอยู่ริมถนนแล้วไถลไปชนเสาไฟฟ้าแล้วเพลิงลุกไหม้ได้รับความเสียหาย จำนวน 2 คัน เหตุเกิดที่บริเวณหน้าโรงเรียนบ้านกู้กู ติดกับเทศบาลตำบลรัษฎา ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต หลังจากรับแจ้งจึงรายงานให้ นายภูดิท รักษาราฎร์ นายกเทศมนตรีตำบลรัษฎา ทราบ ก่อนเดินทางไปตรวจสอบพ้อมด้วย เจ้าหน้าที่ดับเพลิงและรถน้ำ จำนวน 3 คัน
ที่เกิดเหตุบริเวณเสาไฟฟ้าหน้าโรงเรียนดังกล่าว เห็นเพลิงกำลังลุกไหม้ รถยนต์เก๋งยี่นิสสัน หมายเลขทะเบียน 9อ-2201กรุงเทพมหานคร ทางเจ้าหน้าที่ฯฉีดน้ำสกัดเพื่อไม่ให้เพลิงลุกลามไปติดรถกระบะยี่ห้ออีซูซุ สีขาว หมายเลขทะเบียน กษ-5104 ภูเก็ตที่ชนท้ายรถเก๋งคันดังกล่าว แต่การดับเพลิงเป็นไปด้วยความยากลำบากเนื่องจากสายไฟฟ้าขาดตกลงมาที่ถนน ทำให้ทางเจ้าหน้าที่ต้องรอเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าตัดไฟก่อนจึงสามารถฉีดน้ำได้ โดยใช้เวลากว่า 20 นาที จึงสามารถควบคุมเพลิง ในเบื้องต้น รถยนต์เก๋งถูกเพลิงเผาวอด ส่วนรถกระบะถูกเพลิงเผาวอดที่ห้องเครื่องยนต์
อย่างไรก็ตาม ทางพนักงานสอบสวนสภ.เมืองภูเก็ต จะประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานภูเก็ตลงพื้นที่ตรวจสอบเพื่อสาเหตุที่แท้จริงต่อไป
ยกนิ้วให้ กู้ภัยเขาพนม จมูกไว ได้กลิ่นยาเสพติด แกะรอยพบยาบ้าล็อตใหญ่กว่า 1 แสนเม็ด
เวลา 10.00 น.วันที่ 17 พ.ค.61ที่สถานีตำรวจภูธรปลายพระยา จ.กระบี่ ว่าที่ ร.ต.อภินันท์ เผือกผ่อง รองผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ พล.ต.ต.บุญทวี โตรักษา ผบก.ภ.จว.กระบี่ พล.ต.เกรียงไกร ศรีรักษ์ ผบ.บชร.4 พ.ต.อ.นัษฐวุฒิ ทองทิพย์ ผกก.สภ.ปลายพระยา นายอาญาสิทธิ์ ศรีสุวรรณ นายอำเภอปลายพระยา เจ้าหน้าที่ ปปส.ภ.8 ร่วมกันแถลงผลการจับกุมตัวนายสุพัฒ หรือบ่าว เผือกสม อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 92 ม.1 ต.คีรีวง อ.ปลายพระยา จ.กระบี่ ผู้ต้องหาค้ายาเสพติดรายใหญ่ พร้อมด้วยของกลางยาบ้า จำนวน 115,150 เม็ด อาวุธปืน ขนาด .357 พร้อมกระสุน จำนวน 10 นัด ซองปืน สีดำ จำนวน 1ซอง
ก่อนการจับกุมสืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 15 พ.ค.61 เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.ปลายพระยา ได้รับแจ้งเหตุรถยนต์เสียหลักชนหลักกิโลเมตร เหตุเกิดบริเวณหลักกิโลเมตรที่ 34 ถนนสาย 44 เซาท์เทิร์น ซีบอร์ด ม.7 ต.ปลายพระยา อ.ปลายพระยา มุ่งหน้าจาก จ.สุราษฎร์ธานี ไป จังหวัดกระบี่ จึงเดินทางไป ตรวจสถานที่เกิดเหตุ พบรถยนต์เก๋ง หมายเลขทะเบียน กพ 2824 ภูเก็ต สภาพได้รับความเสียหาย โดยมีนายสุพัฒ เป็นคนขับ ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย เจ้าหน้าที่กู้ภัยนำส่งโรงพยาบาลปลายพระยา
ทั้งนี้จาการตรวจสอบข้อมูลพบว่ารถยนต์คันดังกล่าวเป็นรถยนต์เป้าหมายที่ใช้ในการกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติดที่อยู่ระหว่างการสืบสวนของเจ้าหน้าที่และพบว่านายสุพัฒน์เป็นบุคคลเป้าหมายเจ้าหน้าที่จึงได้ทำการตรวจค้นพบของกลางยาเสพติดซุกซ่อนในกระเป๋าสะพายของผู้ต้องหา จำนวน 150 เม็ด และอาวุธปืน 1 กระบอก เจ้าหน้าที่จึงตรวจยึดไว้ พร้อมสอบสวนนายสุพัฒน์ สารภาพว่า ได้ซุกซ่อนของกลางไว้ที่บ้านพักที่อ.ทุ่งใหญ่จ.นครศรีธรรมราช อีกจำนวนหนึ่ง ที่บ้านเลขที่ 16/110 ต.ท่ายาง อ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช จึงเข้าตรวจค้น พบยาบ้า จำนวน 115,000 เม็ด
พล.ต.ต.บุญทวี กล่าวว่า สำหรับการจับกุมครั้งนี้ เป็นยาบ้าล็อตใหญ่ที่สุดในรอบปีนี้ ตำรวจภูธรจังหวัดกระบี่จับกุมได้ จากการให้เบาะแสของเจ้าหน้าที่กู้ภัย จนนำไปสู่การจับกุมนายสุพัฒน์ โดยเบื้องต้นนายสุพัฒน์ ให้การรับสารภาพว่ารับของกลางมาจากพี่ชายจากจังหวัดเชียงราย ส่งมาทางรถไฟมาลงที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยนำของกลางมาพักไว้ที่อ.ทุ่งใหญ่ ก่อนกระจายให้เอเย่นในภาคใต้ แต่มาถูกจับกุมเสียก่อนซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้ขยายผลต่อไป บาคาร่า
